Call of Duty: NEXT เผยโฉม “Area 99” แผนที่โหมดรีเซอร์เจนซ์มาใหม่สำหรับ Call of Duty: Warzone พร้อมด้วยข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางข้างหน้าของ Warzone

แฟนเกมที่ชอบนูกทาวน์จะคุ้นกับภูมิประเทศและทิวทัศน์ส่วนใหญ่ของ Area 99 กันอยู่แล้ว แต่ที่ต่างออกไปคือสเกลของแผนที่ใหญ่กว่ากันมาก ตัวแผนที่จะมีถนนเส้นหลักให้ใช้สัญจร ไม่ว่าจะด้วยการเดินหรือพาหนะ (อย่างไรก็ดี พาหนะขนส่งแบบใช้เครื่องยนต์ไม่อยู่ในบิลด์อัลฟ่าที่เผยโฉมใน Call of Duty: NEXT) ขณะที่จุดสนใจบริเวณอื่นๆ บนแผนที่จะเชื่อมโยงถึงกันโดยมีร่องทราย งานเดินท่อ และงานเดินสายไฟเป็นองค์ประกอบรายล้อม จุดที่คนน่าจะนิยมโดดร่มลงไปมากที่สุดน่าจะเป็นแถบวงเตาปฏิกรณ์ที่อยู่ตรงกลาง และเครนขนาดใหญ่ที่ยกบ้านนูกทาวน์ค้างไว้กลางอากาศ แต่ว่ายังไงความมันส์ส่วนใหญ่ก็คงจะไปกระจุกกันอยู่ตรงกลางแผนที่

แม้ว่า Area 99 จะมีขนาดใหญ่กว่านูกทาวน์มาก (เพราะสุดท้ายแล้วมันก็คือแผนที่โหมดรีเซอร์เจนซ์ของ Warzone) แต่ก็ยังเป็นแผนที่ที่มีความกะทัดรัดและมีจุดเน้นชัดเจน รวมถึงมีพื้นที่ให้เดินได้ใกล้เคียงกับเกาะรีเบิร์ธ

อาร์ชี่ อะตอมกล่าวไว้ว่า “คิดบวกเข้าไว้!”

เกมเพลย์ของ Area 99 มีเสน่ห์แบบไม่ซ้ำใคร แผนที่นี้เน้นชูศิลปะในสไตล์ที่เรียกว่าเรโทรฟิวเจอริซึมผ่านการเลือกใช้วัสดุและสถาปัตยกรรมต่างๆ ในแผนที่จะมีสิ่งก่อสร้างที่มีแนวหลังคาแบบโค้ง รวมถึงห้องประชุมในสไตล์อาร์ตเดโคที่ครั้งหนึ่งเคยมีความโอ่อ่า จุดหนึ่งที่มีกลิ่นอายร้านอาหารยุคทศวรรษ 1950 และทำให้เห็นชัดเจนที่สุดว่าคนในอดีตเคยวาดภาพอนาคตไว้ว่าบ้านจะต้องเป็นพลาสติกทรงโค้งก็คือเศษซากของที่พักอาศัยแบบพ็อดที่มีองค์ประกอบอย่างกำแพงสีฉูดฉาดและครัวขนาดกะทัดรัด

สิ่งที่ยังคงยืนหยัดอยู่ในเขตทหารแห่งนี้ก็คือ “อาร์ชี่ อะตอม” มาสคอตทางการของ Area 99! มาสคอตที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลาตัวนี้จะมีปรากฏให้เห็นตามป้ายสัญลักษณ์และป้ายโฆษณาทั่วแผนที่ โดยอาร์ชี่จะคอยย้ำเตือนด้วยความร่าเริงถึงระเบียบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด อันตรายจากการปฏิบัติงานโดยไม่มีผู้กำกับดูแล และภัยที่จะเกิดขึ้นกับประเทศในกรณีที่ความลับเกิดรั่วไหล แต่ก็คงเห็นได้ชัดว่าทั้งหมดที่พูดมานี้ไม่มีประโยชน์ เพราะดูเหมือนว่า Area 99 จะถูกทิ้งร้างเมื่อเดือนมีนาคมปี 1962 และค่อยๆ เสื่อมโทรมลงไปเรื่อยๆ (แถมเตาปฏิกรณ์ยังมีกัมมันตรังสีรั่วไหลด้วย) ตั้งแต่นั้นมา

ทัวร์ชม Area 99

ด้านล่างนี้จะเป็นการทัวร์ชมจุดสนใจต่างๆ ของ Area 99 แบบคร่าวๆ:

โรงประกอบหุ่น

บอกเลยว่าใครมีอาการกลัวหุ่นไม่ควรเข้ามาที่นี่ เพราะจุดสนใจตรงนี้คือโรงงานหุ่นขนาดใหญ่ (ก่อตั้งเมื่อปี 1949) ที่มีพื้นที่ครอบคลุมบริเวณทางตอนเหนือส่วนใหญ่ของแผนที่ โรงงานแห่งนี้ผลิตหุ่นออกมามากเกินจำนวนโดยไม่มีผู้กำกับดูแลเป็นเวลาหลายปีนับตั้งแต่ Area 99 ถูกทิ้งร้าง ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือมีชิ้นส่วนหุ่นกองเป็นพะเนินจนใครเห็นก็ต้องส่ายหัว ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอลำตัว หัว และแขนเกลื่อนกลาดเป็นพันๆ ชิ้น ขณะที่ความร้อนจัดและทรายที่รุกล้ำเข้ามาตลอดช่วงเวลาหลายสิบปีก็ปกคลุมลานสินค้าด้านนอกที่มีทั้งชิ้นส่วนหุ่นพลาสติกและกองทราย

ส่วนข้างในอาคารที่เชื่อมต่อกันเป็นโรงประกอบก็มีสภาพเหมือนเขาวงกตที่ทรุดโทรม เมื่อเข้าไปก็จะเจอถังอุปกรณ์หล่อขึ้นรูปขนาดยักษ์ ระบบเตรียมแบบหล่อขึ้นรูป สายพานลำเลียง ห้องประกอบชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่มีแขนหุ่นยนอัตโนมัติขึ้นสนิมที่ถูกกาลเวลาแช่แข็งเอาไว้ แท่นอัดไฮดรอลิกที่ดูเหมือนจะยังใช้งานได้ ตลอดจนกลิ่นพลาสติกหลอมละลายที่กระจายอยู่ทั่วทุกจุด

พื้นที่ทดสอบและบังเกอร์

เมื่อเดินสำรวจลึกเข้าไปอีกหน่อยผ่านทางเข้าบังเกอร์หรือประตูกลโลหะ คุณก็จะพบกับโพรงหลบภัยใต้ดิน มีคลังอาวุธขนาดใหญ่ ลานโหลดของสำหรับยุทธภัณฑ์ที่ติดไฟง่าย ห้องวางแผนยุทธศาสตร์ที่มีแบบแปลนพร้อมข้อความขีดเขียนให้ลองเข้าไปอ่าน ตลอดจนเมนเฟรมที่บันทึกการทดสอบระบบอาวุธด้วยเทคโนโลยีเทปล้ำสมัยจากยุค 60

เตาปฏิกรณ์และคูลลิ่งทาวเวอร์

กระบวนการก่อสร้างจะเริ่มต้นภายในโรงงานสีขาวแดงที่คนเรียกกันว่า “โกดัง” วัสดุก่อสร้างจะถูกส่งมาที่โกดังเพื่อใช้สร้างส่วนประกอบของบ้าน พอเสร็จแล้วก็จะขนส่งผ่านสายพานลำเลียงขนาดใหญ่บนเพดานไปยังพื้นที่ปฏิบัติงานหลัก ซึ่งเป็นจุดที่บ้านนูกทาวน์ทั้งหลังจะถูกสร้างขึ้นมาแบบสำเร็จรูป จากนั้นก็จะถูกย้ายไปไว้ที่ประตูเพื่อรอขนส่งต่อไป ขอแนะนำว่าอย่าลืมสำรวจอาคารโรงงานสีเขียวอมฟ้าที่เรียกว่า “โรงผลิต” ซึ่งมีทั้งห้องประชุมบนดาดฟ้า ตู้ล็อกเกอร์ และห้องครัวของคนงาน รวมถึงลานขนาดใหญ่สำหรับใช้สร้างบ้าน

สิ่งน่าสนใจหลักที่ทำให้บริเวณนี้น่าสำรวจก็คือลานขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับประกอบส่วนต่างๆ ของบ้านนูกทาวน์เข้าด้วยกัน เดินไล่สำรวจไปตามโถงสายพานลำเลียงยาวๆ พร้อมกับชื่นชมส่วนต่างๆ ของผนัง เครื่องใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และป้ายที่ยังคงรอการประกอบ เข้ามาที่นี่เพื่อสัมผัสประวัติศาสตร์ของนูกทาวน์ และอยู่ต่อเพื่อเล่นปาร์กัวร์และสำรวจพื่นที่ภายในสายพานลำเลียงขนาดใหญ่ โกดังขนส่ง และทางเดินในโรงงาน

ลานโหลดของ

สิ่งเดียวที่เด่นเป็นสง่าที่สุดในลานขนส่ง Echo Ridge ก็คือเครนขนาดใหญ่ที่อยู่สูงขึ้นไปเหนือลานโหลดของหลัก ซึ่งก็เป็นตำแหน่งที่ถ้าใครยึดได้ก็คงจะเล่นได้สบายกันไปเลย รถบรรทุกขนาดใหญ่พร้อมพื้นบ้านที่ไม่มีหลังคาหรือฝาพนังจะมากันตรงนี้เพื่อรับบ้านทั้งหลังหรือสิ่งของตกแต่งอื่นๆ เสร็จแล้วจึงขนจากลานแห่งนี้เพื่อไปส่งที่จุดหมาย ใกล้ๆ กันมีโกดังรับสินค้า แต่สิ่งน่าสนใจหลักๆ เลยก็คือบ้านทั้งหลังที่สร้างเสร็จแล้ว แต่ยังคงห้อยอยู่บนรอกเครน แถมยังมีจุดหลายจุดที่ใช้ในการสัญจรได้ ไม่ว่าคุณจะใช้ร่มชูชีพหรือรอกสลิงในการมาที่นี่

ขนส่งนูกทาวน์

เมื่อไปทางด้านตะวันออกของแผนที่ คุณจะเจอกับกลุ่มที่อยู่อาศัยของนูกทาวน์ บางหลังยังคงมีซากของพื้นบ้านและห้องโดยสารของรถบรรทุกขนาดใหญ่หลงเหลือให้เห็นว่ากำลังขึ้นสนิมและแหลกสลายไปท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ บ้านทั้งหลายตรงนี้กำลังรอคอยเอกสารอนุญาตให้ขนส่ง แต่เวลาหลายทศวรรษหลังจากที่ถูกทอดทิ้งก็ได้กัดกร่อนทั้งอาคารและพาหนะจนหมดสภาพไม่ต่างกัน ในปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้ได้กลายเป็นสุสานของบ้านที่ถูกฝังครึ่งหลัง ค่อยๆ ถูกทรายที่คืบคลานเข้ามากลืนกิน

พ็อด

ที่อยู่อาศัยแบบพ็อดในสไตล์เรโทรฟิวเจอริซึมใหม่ล่าสุดตรงนี้เคยเป็นที่พักพิงของชุมชนคนงานที่ทำให้สถานีอาวุธ Echo Ridge ขับเคลื่อนต่อไปได้ ในปัจจุบันยังคงมีพ็อดสีสันสดใสสี่หลังที่ยังคงตั้งตระหง่าน ถึงแม้จะอยู่ในสภาพทรุดโทรมมากน้อยต่างกันไปก็ตาม แต่ละพ็อดมีเสาตรงกลาง (และลิฟต์) พร้อมห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องพักที่แยกเป็นแขนงออกมาจากเสาหลักนี้

หลังจากถูกทิ้งร่างมา 30 ปี ผนังที่หลุดลอก ตลอดจนหลังคาและหน้าต่างที่อยู่ในสภาพดีบ้างพังบ้างก็ยังคงเก็บความทรงจำลางๆ เอาไว้ ถ้าเข้าไปสำรวจพ็อดและทางเดินภายนอกที่เป็นขั้นบันได โอเปอเรเตอร์อาจจะพบโอกาสในการซุ่มยิงระยะไกล รวมทั้งอาจจะได้ทำภารกิจเคลียร์ห้องในระยะประชิดด้วย ผู้รอดชีวิตเพียงอย่างเดียวคือพุ่มไม้ทะเลทราย กระบองเพชรชอลลา และต้นโจชัว

ทิศทางข้างหน้าของ Call of Duty: Warzone

การผสานนวัตกรรม

การเพิ่ม Area 99 เข้ามาใน Call of Duty: Warzone ของปีนี้เป็นแค่หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมอีกมากมายที่มีการเตรียมไว้สำหรับเกมนี้ Raven จะเป็นหัวหอกในการผสาน Black Ops 6 เข้ามาใส่ใน Call of Duty: Warzone โดยร่วมมือกับ Treyarch ต่อไปนี้เป็นฟีเจอร์ที่เรายืนยันได้ว่าจะเพิ่มเข้ามาในเกม ซึ่งจะรวมถึงการผสาน ระบบเกมเพลย์หลัก ของ Black Ops 6 ที่เดี๋ยวเราจะไปดูกันแบบเจาะลึกด้วยเช่นกัน ตัวอย่างไฮไลต์เด่นๆ มีดังนี้:

• ระบบออมนิมูฟเมนต์: เชื่อมท่วงท่าการต่อสู้ได้อย่างไร้รอยต่อในทุกทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเร็ว สไลด์ การพุ่งหน้า หรือท่าหงายที่เราปรับมาใหม่ โดยทั้งหมดนี้เคลื่อนไหวได้แบบเต็ม 360 องศา

• อาวุธยุทโธปกรณ์ Black Ops: อาวุธหลักและอาวุธรองทั้งหมด (ไรเฟิลจู่โจม, SMG, ปืนลูกซอง, LMG, มาร์กส์แมนไรเฟิล, สไนเปอร์ไรเฟิล, ปืนพก และลอนเชอร์) ที่จะมาพร้อมกับ Black Ops 6 ก็จะเพิ่มเข้ามาให้ผู้เล่นได้เลือกใช้กันหลังเปิดซีซัน 1 เช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีกำหนดการที่จะเพิ่มอุปกรณ์บางส่วน (รวมถึงอุปกรณ์กลยุทธ์ อุปกรณ์ถึงชีวิต และอัปเกรดภาคสนาม) อีกด้วย คอยติดตามข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงสัปดาห์ถัดๆ ไปได้เลย

• ตีประชิดโดยเฉพาะ: นอกจากปืนที่เป็นอาวุธหลักและรองแล้ว คุณจะสามารถนำอาวุธชิ้นที่สามที่เป็นอาวุธตีประชิดเข้าไปในสมรภูมิได้ อาวุธยุทธภัณฑ์ชิ้นที่สามนี้จะเป็นอาวุธระยะใกล้ที่ใช้สร้างความเสียหายระยะไกลไม่ได้ โดยมักจะอยู่ในรูปของมีดหรือกระบอง และถือว่าเป็นตัวเลือกเสริมในการโจมตีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับการโจมตีด้วยพานท้ายปืน ผู้เล่นจะติดตั้งได้โดยการกดปุ่มตีประชิดค้างไว้

• บิลด์อาวุธหลัก: การอัปเกรดโหลดเอาต์และระบบแต่งปืนคราวนี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนบิลด์หรือพิมพ์เขียวในโหมดใดก็ได้ จากนั้นการปรับเปลี่ยนดังกล่าวก็จะมีผลใน ทุกโหมด (Black Ops 6, ซอมบี้ และ Call of Duty: Warzone) แต่ว่าจะใช้ได้กับอาวุธ Black Ops 6 เท่านั้น

• คอนเทนต์ที่นำไปใช้ต่อได้: Call of Duty: Warzone จะรองรับอาวุธ พิมพ์เขียว โอเปอเรเตอร์กับสกิน และของตกแต่งเกือบทั้งหมดจาก Call of Duty: Modern Warfare® II และ Modern Warfare III รวมถึงจะผสานทั้งเกมเพลย์และคอนเทนต์ของตกแต่งทั้งหมดของ Black Ops 6 เข้ามาอย่างเต็มรูปแบบ

• ระบบเกียรติยศแบบคลาสสิกและการรีล็อก: ระบบนี้คือระบบการเก็บเลเวลเจาะลึกแบบเน้นๆ ที่จะเพิ่มมาใน Black Ops 6 มัลติเพลเยอร์และซอมบี้ในวันเปิดตัว และจะเพิ่มมาใน Call of Duty: Warzone ซีซัน 1 โดยเป็นระบบที่จะตอบแทนความทุ่มเทในการฟาร์มด้วยรางวัลสุดพิเศษมากมายที่ใครเห็นต่างก็อยากได้ไปครอบครอง

• การรีล็อก: หากต้องการเก็บความคืบหน้าในระบบเกียรติยศ เลเวลทหารที่คุณสะสมมาตั้งแต่ 1-55 จะถูกรีเซ็ต (หรือที่เรียกกันว่า “รีล็อก”) และจะต้องปลดล็อกใหม่อีกรอบ อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของอาวุธคุณจะไม่หายไปไหน แล้วก็ยังมีวิธีที่คุณจะสามารถใช้ไอเทมชิ้นโปรดได้ผ่านโทเคนสิทธิ์ปลดล็อกถาวร รวมทั้งมี Prestige Hub ให้คุณติดตามความคืบหน้าของระบบเกียรติยศได้อย่างสะดวกง่ายดาย

• อีโมตและสเปรย์: ฟังก์ชันการปรับแต่งโอเปอเรเตอร์ที่จะกลับมาอีกครั้งได้แก่ อีโมตและสเปรย์ (รูปไอคอนที่หลักๆ แล้วจะพ่นไว้บนกำแพงเพื่อเป็นการแท็กหรือเพื่อระบุตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ให้กับเพื่อนร่วมทีม) อีโมตเป็นฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้ทุกที่ที่คุณสามารถควบคุมตัวละครได้

เลือก 3: แผนสำหรับทักษะเสริม

ถึงแม้ว่าระบบโหลดเอาต์ส่วนใหญ่ของ Black Ops 6 จะเพิ่มเข้ามาใน Call of Duty: Warzone แต่ลักษณะการจัดระเบียบและเลือกทักษะเสริมจะแตกต่างกันเล็กน้อย ขอต้อนรับสู่ฟีเจอร์ที่เรียกว่า “เลือก 3”

วิธีการใช้ทักษะเสริมของ Call of Duty: Warzone ในปัจจุบันไม่ได้จะเปลี่ยนแปลงแบบสุดโต่งอะไร เพราะ Raven แค่จะนำองค์ประกอบที่มีกลิ่นอายของ Black Ops 6 และเข้ากันได้ดีกับ Call of Duty: Warzone มากที่สุดมาใส่เพิ่มในตัวเกมเวอร์ชันถัดไป ซึ่งก็จะรวมถึงการปรับอาวุธเก่าๆ อีกครั้ง การปรับสมดุลทักษะเสริมและอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีให้เลือกใช้ และการใส่ทักษะเสริมแบบเวียนและเก็บได้ลงไปในแมตช์:

• ทักษะเสริมแบบเลือก 3: ก่อนที่จะโดดร่มลงไปร่วมแมตช์ คุณจะสามารถเลือกทักษะเสริมใดก็ได้สามรายการจากโหลดเอาต์

ไวลด์การ์ด: ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถยกระดับโหลดเอาต์โปรดของตัวเองได้โดยการเพิ่มไวลด์การ์ดหนึ่งรายการ ระบบนี้ปรากฏครั้งสุดท้ายใน Black Ops Cold War และจะนำมาใช้กับ Call of Duty: Warzone เป็นครั้งแรก โดยไวลด์การ์ดจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มตัวปรับแต่งที่ปกติแล้วจะไม่เป็นไปตามกฎของระบบโหลดเอาต์ได้

• ลายพรางความชำนาญอาวุธ: อาวุธ Black Ops 6 ทุกชิ้นจะมีเซ็ตลายพรางความชำนาญ Call of Duty: Warzone ให้คุณปลดล็อกแยกต่างหาก โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบเกมเพลย์หลัก ไปดูของจริงที่บล็อก "ระบบเกมเพลย์หลัก" ได้เลย!

• การท้าทายเป้าเล็ง: เป้าเล็งแบบปรับแต่งเองกลับมาให้ใช้งานกับอาวุธใดๆ ที่มีศูนย์เล็งออปติกได้อีกครั้ง และยังมาพร้อมเซ็ตการท้าทายที่จะปลดล็อกสัญลักษณ์การเล็งของ Call of Duty: Warzone โดยเฉพาะ เพื่อให้คุณใช้กับศูนย์เล็งใดก็ได้ใน Black Ops 6 มัลติเพลเยอร์, ซอมบี้ หรือ Call of Duty: Warzone!

• การท้าทายนามบัตร Dark Ops: เกมที่ขึ้นชื่อว่า Black Ops จะขาดการท้าทายนามบัตร Dark Ops ไปไม่ได้หรอก! การท้าทายประเภทนี้เป็นภารกิจโหดหินที่จะ [[REDACTED]] เกณฑ์การปลดล็อกเอาไว้จนกว่าคุณจะพิชิตสำเร็จ! นี่ถือว่าเป็นเซ็ตนามบัตรลับขั้นสุดยอดที่มีให้เป็นเจ้าของ!

การปรับปรุงเกมเพลย์

ทิ้งกระเป๋าเป้และกลับคืนสู่ระบบพื้นฐาน

Raven ได้ศึกษาเกี่ยวกับเกมเพลย์และถอดบทเรียนจาก Call of Duty: Warzone ในยุคของ Call of Duty: Modern Warfare (2019) เพื่อเบนทิศทางบางส่วนของ Call of Duty: Warzone เวอร์ชันปีนี้ให้เน้นเรื่องความเรียบง่าย หนึ่งในผลลัพธ์สำคัญที่ได้ก็คือการกลับมาของระบบช่องเก็บของสุดคลาสสิกในเกม ถ้าถามว่าหมายความว่ายังไง

ก็หมายความว่าจะไม่มีกระเป๋าเป้อีกต่อไป

ระบบนี้จะเอื้อให้ผู้เล่นพัฒนาความทรงจำของกล้ามเนื้อได้ง่ายขึ้น เมื่อคุณเข้าไปในช่องเก็บของในเกมที่ไม่ใช่โหลดเอาต์ คุณก็จะพบกับกลุ่มช่องหน้าตาบ้านๆ ที่ผู้เล่นหน้าเก่าเห็นแล้วจะรู้เลยว่ามีเค้าโครงคล้ายคลึงอย่างมากกับระบบช่องเก็บอุปกรณ์แบบดั้งเดิม ช่องเก็บของจะมีที่ว่างสำหรับจุสิ่งของดังต่อไปนี้:

• เงินที่มี

• หน้ากากกันแก๊ส

• แผ่นเกราะ

• คิลสตรีก

• อัปเกรดภาคสนาม

• อาวุธหลัก อาวุธรอง และอาวุธตีประชิด

• กระสุน AR, SMG, ปืนลูกซอง, สไนเปอร์ และลอนเชอร์

ต่อจากนี้การเลือกอุปกรณ์และการขออุปกรณ์จากเพื่อนร่วมหมู่รบก็จะเป็นเรื่องง่ายสุดๆ ไปเลย ง่ายจึงขนาดที่ว่าข้อจำกัดเพียงข้อเดียวที่คุณจะเจอก็คือความจุของช่องเก็บของนั่นเอง

และปัญหาที่ว่านี้ก็หมดไปเพราะเรามีระบบซอง

เพิ่มช่องเก็บของ: ระบบกระเป๋า

กระเป๋าเป็นระบบที่เพิ่มเข้ามาใน Call of Duty: Warzone เป็นครั้งแรกหลังจากเกมเวอร์ชันแรกเปิดตัวได้แค่เดือนนิดๆ ในปี 2020 โดยเป็นตัวอย่างสำคัญของแนวทางการคุมช่องเก็บของให้มีความเรียบง่ายจาก Call of Duty: Warzone ในช่วงแรกๆ ซึ่งในขณะเดียวกันก็มีความซับซ้อน (และความจุ) เพิ่มขึ้นสำหรับคนที่ต้องการ ระบบกระเป๋าจะกลับมาอีกครั้งใน Call of Duty: Warzone:

กระเป๋าเป็นอุปกรณ์ที่ผู้เล่นสามารถเลือกว่าจะเก็บหรือไม่เก็บก็ได้ โดยจะช่วยเพิ่มความจุของช่องเก็บของแบบแยกหมวดเฉพาะขณะเล่นแมตช์ Call of Duty: Warzone ระบบนี้จะช่วยให้โอเปอเรเตอร์สามารถเพิ่มจำนวนไอเทมชิ้นเดียวกันเพื่อเป็นการเสริมขีดความสามารถในการเก็บของและประสิทธิภาพในการเล่น กระเป๋าจะดรอปไม่ได้ (และไม่จำเป็นต้องดรอป) ผู้เล่นสามารถหากระเป๋าแต่ละประเภทหรือทั้งสองประเภทและติดตั้งได้หนึ่งครั้งต่อแมตช์ ถ้าโอเปอเรเตอร์ที่ติดตั้งกระเป๋าอย่างน้อยหนึ่งใบขึ้นไปถูกสังหาร กระเป๋าทั้งหมดในตัวจะดรอปและถูกเก็บไปได้ ประเภทของกระเป๋าที่คุณจะเจอมีดังนี้:

• กระเป๋าเกราะ: กระเป๋าประเภทนี้จะช่วยเพิ่มความจุของแผ่นเกราะที่พกติดตัวได้อย่างมาก

• กระเป๋ากระสุน: กระเป๋าประเภทนี้จะช่วยเพิ่มความจุกระสุนสำหรับกระสุน AR, SMG, Shotgun, สไนเปอร์ และลอนเชอร์

การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่จะเพิ่มเข้ามา

หัวใจสำคัญของการผนวก Black Ops 6 เข้ากับบทถัดไปของ Call of Duty: Warzone ไม่ได้มีแค่แผนที่รีเซอร์เจนซ์ เนื่องจากโอเปอเรเตอร์จะโดดร่มลงไปในอูร์ซิกสถานกันต่อไปในช่วงเริ่มซีซัน 1 ขณะที่ Raven คอยดูแลว่าคอนเทนต์หลักใหม่ๆ จะผนวกเข้าไปใน Call of Duty: Warzone ได้อย่างไม่มีสะดุด ผู้เล่นก็เตรียมพบกับการเล่นจัดอันดับแผนที่ใหญ่ได้เลย:

การเล่นจัดอันดับกลับมาแล้ว!

การเล่นจัดอันดับแบตเทิลรอแยล: ในช่วงซีซัน 1 การเล่นจัดอันดับจะหวนคืนสู่แผนที่ใหญ่แบบจัดเต็ม โดยจะเป็นการเพิ่มการเล่นจัดอันดับเข้ามาใน Call of Duty: Warzone ในช่วงซีซันต้นๆ แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน พิสูจน์ความสามารถของคุณด้วยการชิงไหวพริบ วางแผนซ้อนแผน และเอาชนะคู่ต่อสู้เพื่อรับรางวัลการเล่นจัดอันดับสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

นี่แหละ Call of Duty: Warzone Mobile

เช่นเดียวกับ Call of Duty: Warzone (ดังที่ได้กล่าวถึงไปในส่วนที่ชื่อว่าทิศทางข้างหน้าของ Call of Duty: Warzone) ฝั่ง Call of Duty®: Warzone™ Mobile เองก็จะได้รับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงของเกมเพลย์หลายๆ อย่างเพื่อซิงค์กับระบบเกมเพลย์หลักและสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่ใน Call of Duty: Black Ops 6

การเปลี่ยนแปลงที่กล่าวถึงไปบางส่วนจะเพิ่มเข้ามาใน Warzone Mobile พร้อมกับการเปิดตัวซีซัน 1 ของ Call of Duty: Warzone และบางส่วนก็อาจจะเพิ่มเข้ามาในอัปเดตเวอร์ชันหลังๆ ไม่เพียงเท่านั้น ฟีเจอร์แชร์ความคืบหน้าแบบเดียวกับในปัจจุบันทั้งหมดจะยังคงดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการซิงค์แบตเทิลพาสและความคืบหน้าอาวุธ ชุดบันเดิลที่แชร์ข้ามเกม ตลอดจนเลเวลทหาร (เลเวลโปรไฟล์ผู้เล่น)

เราตื่นเต้นและดีใจมากที่จะได้นำประสบการณ์ที่รวมฟีเจอร์ การเปลี่ยนแปลง และคอนเทนต์ให้เป็นหนึ่งเดียวกันมาส่งมอบให้กับผู้เล่นฝั่งมือถือของเราในปีนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม

รางวัล Black Ops 6 เบต้า